๑.
การวิเคราะห์สถานการแข่งขันทางการตลาดว่าอยู่ในตลาดใด
ซึ่งประกอบไปด้วย ตลาดผู้นำ ผู้ท้าชิง ผู้ตาม และตลาดรายย่อย : :leader ,
challenger, follower, niche market
๒.
การวิเคราะห์ กลยุทธ์การขยายสายผลิตภัณฑ์หรือตัดลดสายผลิตภัณฑ์
โดยใช้ BCG
Model เป็นแนวในการวิเคราะห์ ความสำคัญในการวิเคราะห์คือ
สถานของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตกอยู่ในแต่ละ Matrix
ที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกัน: Question Mark, Star,
Cash cow and Dog.
๓.
กลยุทธ์การตลาดตามวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product
life cycle: PLC) ในแต่ละช่วงการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดที่แตกต่างกันไปตามระยะเวลาจะทำให้กลยุทธ์ของสินค้าในแต่ละระดับแตกต่างกัน
: Introduction, Growth, Maturity and Decline stage
๔.
กลยุทธ์ของสินค้าหากแบ่งตามการมองเห็นสามารถแบ่งได้เป็น
2 กลุ่มได้แก่ Tangible product (goods) สินค้าที่มีตัวตนและสินค้าไม่มีตัวตน
Intangible product (goods) ซึ่งสินค้าประเภทมีตัวตนจะเน้นหนักไปที่กลยุทธ์
4Ps ส่วนสินค้าไม่มีตัวตนจะเน้นหนักไปที่กลยุทธ์ 7Ps
(+ people, process, physical evidence) ปัจจุบันหนังสือบางเล่มเพิ่มเป็น
8Ps (+ Productivity)
๕.
หากแบ่งกลยุทธ์ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคสามารถแบ่งกลยุทธ์การตลาดได้เป็น
4 กลุ่มได้แก่ กลุ่มของสินค้าประเภท สะดวกซื้อ (convenient goods) สินค้าเปรียบเทียบซื้อ (Shopping goods) สินค้าเจาะจงซื้อ
(Specialty goods) สินค้าไม่แสวงซื้อ (Unsought
goods) ซึ่งจะมีลักษณะของกลยุทธ์ในแต่ละ PLC แตกต่างกันไป
๑.
(Maintain) ส่วนสินค้าประเภทไม่คงทนจะเป็นสินค้าที่มีการใช้แล้วหมดไป
อาจเป็นสินค้าในกลุ่มของสินค้าสะดวกซื้อ สินค้าเปรียบเทียบซื้อ
สินค้าเจาะจงซื้อหรือสินค้าไม่แสวงซื้อก็ได้
๒.
กลยุทธ์การสร้างตราสินค้า
ซึ่งตราสินค้าไม่ได้ประกอบไปด้วย Brand name, Logo, Slogan เท่านั้น
ตราสินค้ายังแสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะหรือเอกลักษณ์เฉพาะของสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าประทับใจและมีการซื้อซ้ำ
(Loyalty) ค่อนข้างสูง