Custom Search

MBA Holiday

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

1.  ความสามารถในการทำกำไร Profitable Ratio  มี4  ตัวย่อย (ROTA /ROE/ EPS/ DPS)
                1.1  Return on Total Asset  (ROTA) : อัตราผลตอบแทน หรือกำไรเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมด หมายถึง ความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ว่า นำเงินไปลงทุนได้ถูกทาง หรือก่อให้เกิดรายได้หรือไม่
                                            EBIT
                               Total Asset
                                EBIT =  Earning before Interest and Tax (กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี)
                                TA =Total Asset (สินทรัพย์)

                สินทรัพย์ที่มีทั้งหมด หารด้วยรายได้  โดยทางการเงิน ROTA ตัวเลขยิ่งมากยิ่งดี หรือความสามารถในการทำกำไรของกิจการจะสูง การจะรู้ว่า ROTA มากแค่ไหนจะต้องใช้หลักBenchmark เป็นตัวเทียบ โดยดูจากธุรกิจประเภทเดียวกัน ใช้ค่าเฉลี่ยของ ROTA

ถ้าบริษัทมีค่าเฉลี่ยสูงกว่า ก็แสดงว่ามีการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ

                                1.2 Return on Equity (ROE)  ความสามารถในการทำกำไร เมื่อเทียบกับทุนที่ลงไป
                                                EAT
                                                E                            
                                EAT = Earning After Tax กำไรหลังหักดอกเบี้ยและภาษี หรือกำไรสุทธิหลังหักภาษี
                                E      = Equity  เงินทุน ทุน หรือเงินที่ใส่เข้าไปในการลงทุน

                ในทางการเงินถ้า ROE มากแสดงว่าความสามารถในการทำกำไรของกิจการจะสูง การจะบอกว่า ROE ของกิจการดีหรือไม่ทำได้ 2 แบบคือ
·       เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของ ROE ในอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน     
·    เปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยง (Risk Free Rate) ซึ่งในที่นี้คืออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล นั่นคือต้องเปรียบเทียบว่าหากเอาเงินไปซื่อพันธบัตรรัฐบาลกับมาลงทุนแล้วอะไรจะได้ผลตอบแทนมากกว่า

EX:   ถ้าเอาเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้ผลตอบแทน 7 % แต่ถ้าลงทุนได้ผลตอบแทนแค่ 5 % แสดงว่าไม่สมควรลงทุนเพราะไม่คุ้มค่า เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงมากกว่าการซื้อพันธบัตร  
                การที่ใช้วิธีการนี้เนื่องจากเงินที่จะเอาไปลงทุนนั้นจะมีค่าเสียโอกาส ดังนั้นต้องเอาค่าเสียโอกาสของเงินมาคิดคำนวณด้วย
                                1.3  EPS - Earning Per Share   กำไรต่อหุ้น         (หน่วยเป็นบาท)
                                                EAT
                                                Share
                                EAT= Earning After Tax (รายได้สุทธิหลังหักภาษี)
                                Share = จำนวนหุ้นทั้งหมด
                บริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรสูง จะมีกำไรต่อหุ้นหรือ EPS ต้องสูง ดังเราจะพบว่าบางบริษัท EPS สูงมาก เนื่องจากมี EAT มาก เนื่องจากยอดขายมาก เนื่องจาก Asset มีคุณภาพ มีความสามารถในการจัดการ ต้นทุนต่ำ  มีค่าใช้จ่ายน้อย และยังมี Share น้อย (จำนวนหุ้นน้อย) เมื่อหารแล้ว EPS ก็จะสูง

                                1.4  DPS –Dividend Per Share     เงินปันผลต่อหุ้น     (หน่วยเป็นบาท)
                                                Dividend
                                                 Share  
                บริษัทที่มีกำไรต่อหุ้นสูงแสดงว่ามีความสามารถในการทำกำไรสูง เพราะกำไรต่อหุ้นจะเป็นส่วนที่ทำให้ผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนกลับ
                อย่างไรก็ตามบางบริษัทอาจจะจ่ายกำไรต่อหุ้นไม่สูงนักหากมีนโยบายกันเอากำไรไว้สำหรับการลงทุน  เช่นกรณีของ ปตท. จะกำหนดว่าจะจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 25 % ของกำไร  เช่นถ้าได้กำไร 10,000 ล้าน จะเอามาปันผล 750 ล้านที่เหลือเอาไว้ลงทุน และปี 2549 เงินปันผลกำไรต่อหุ้นของปตท. คือ 7.50 บาท จากกำไรต่อหุ้น 30 กว่าบาท

0 Comments:

Post a Comment



บทความที่ได้รับความนิยม